วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

เรื่องหลังบ้าน 003 : วีรกรรมของตระกูล 1 SS 03

ฟังเสียง http://www.mediafire.com/?toxkv6s8a132g60
http://www.4shared.com/audio/mwFC_P1x/stream_Stable_Story_003_.html

(เรื่องหลังบ้าน 004 : วีรกรรมของตระกูล ตอนที่ 1 และ 2
 ใช้ไฟล์เสียงเดียวกัน)


แป้ง : ธุรกิจของตระกูล

เคยมีคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมลุงสมชายจึงร่ำรวยมั่งคั่ง อยู่ในระดับมหาเศรษฐีโลก ทั้งๆที่วงศ์ตระกูลมิใช่คนร่ำรวยมหาศาลมาแต่ก่อน เหตุใดรัฐบาลวอชิงตันหรือซีไอเอจึงมีอิทธิพลเป็นพันธมิตรกับลุงสมชายอย่างเหนียวแน่นมาตลอด ปัญหาเรื่องยาเสพติดในประเทศไทยมีใครเป็นหัวเรือใหญ่ ทำไมจึงไม่มีวันหมดไปจากประเทศไทย ประเทศไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตามอง เพราะเป็นเส้นทางขนถ่ายยาเสพติดของโลกมานาน


เหว่ยเซียะกัง (Wei Hsueh Kang) เจ้าพ่อค้ายาเสพติดระดับโลกโดนจับในไทยถึงสองครั้ง ครั้งแรกอัยการอ้างว่าฟ้องไม่ทันจึงไม่ฟ้อง ครั้งที่สองศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแต่ให้ประกันตัวจนหนีไปได้ คงต้องมีผู้มีบารมีคอยช่วยเหลือจนหลุดลอยนวลได้ทุกครั้ง



ทั้งยังมีรายงานว่าบริษัทปูนซิเมนต์ของลุงสมชายได้ส่งปูนซิเมนต์ที่ใช้ในการก่อสร้างเมืองยอน (Mong Yawn) ของพวกโกกั้งในเขตประเทศพม่าใกล้ชายแดนไทยตรงข้ามเขตอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ใช้โควต้าการส่งออกปูนซิเมนต์ไปลาวและเขมรโดยได้รับการยกเว้นภาษี


มีข่าวทางลึกว่าลุงสมชายคือหุ้นส่วนใหญ่ของเมืองยอนที่เป็นแหล่งผลิตแป้งตราสิงโตเหยียบลูกโลกอันลือชื่อที่ส่งออกขายทั่วโลก หลายคนสงสัยว่าอะไรเป็นเหตุให้รัฐบาลรักสินที่ประกาศทำสงครามกับยาเสพติดอยู่ไม่ได้ เคยมีข่าวว่าบังรอนลูกน้องเหว่ยเซียะกังประกาศออกเงินลงขัน 80 ล้านบาทเพื่อสังหารนายกรักสิน และมีหลายครั้ง ที่มีข่าวว่าคนในครอบครัวของลุงสมชายโดนจับเรื่องขนแป้งในต่างประเทศอยู่เป็นระยะๆ

ปกติครอบครัวของลุงจะมีการถือหุ้นลม ทั้งลุง ป้า และลูกๆ ทุกคน มีหุ้นลมกันหมด แต่ที่เป็น เรื่องขึ้นมา ก็คือ ป้าใช้ให้โสภาวลีถือหุ้นลมของบริษัทขายตรงขนาดใหญ่ ที่ชื่อซูเลียน (Zhulian)ซึ่งมีสาขาทั่วโลก โสภาวลีก็ต้องไปเปิดงาน แจกโล่ มอบรางวัล ทำกิจกรรมร่วมกับบริษัทนี้เป็นประจำ และคอยช่วยเคลียร์ปัญหา ทำให้บริษัทนี้เติบโตเร็ว โดยที่โสภาวลีไม่ได้ออกเงินไม่ต้องลงทุนเลย รับทรัพย์อย่างเดียว เดินทางก็สะดวกสบาย ไม่ต้องกลัวรถติด ถ้าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทำอะไรไม่ถูกใจ คนของเสี่ยอูก็จะไปรายงานให้เสี่ยสั่งย้ายภายใน 24 ชั่วโมง

ครั้งหนึ่ง ป้าใช้ให้โสภาวลีเปิดบริษัทบังหน้าค้าแป้งที่สุทธิดาเคยโดนรวบไปแล้ว ถ้าเป็นที่ประเทศไทยคงไม่มีใครกล้าจับ แต่นักข่าวอิตาลีรู้ แล้วไปเขียนข่าวรายงานว่า ลุงและป้า เป็นเจ้าของกิจการค้าแป้ง ทำให้ลูกน้องของลุงต้องวิ่งปิดข่าวกันอุตลุด แต่เป็นข่าวใหญ่มากที่อิตาลี เรื่องที่มีรายงานว่าลุงและป้าค้าแป้ง มีเค้าว่าน่าจะเป็นอาชีพหลักมานานพอสมควรตั้งแต่รุ่นคุณย่าสังวอน เพราะตระกูลของลุงไม่ได้ร่ำรวยมาก่อนเหมือนญาติๆบางคน จึงต้องรวยทางลัด แล้วเอาเงินนั้นมาฟอกทำกิจการใหญ่ๆ จนกลายเป็นตระกูลเทวดาที่ร่ำรวยมั่งคั่งที่สุดในโลก ปัจจุบันก็คงยังไม่เลิก เพราะกำไรดีเป็นร้อยๆเท่ามากกว่าทำอย่างอื่น และได้สิทธิ์คุ้มครองพิเศษหลายชั้น ไม่มีใครกล้าถามหรือกล้าตรวจสอบ และเป็นเรื่องที่ซีไอเอของสหรัฐใช้เป็นเครื่องต่อรอง ให้ลุงสมชายต้องยอมเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือมาตลอด

โสภาวลีถูกจับเรื่องขนแป้ง
ที่ฝรั่งเศส


เสี่ยอูก็ร่วมทำธุรกิจค้าแป้งของครอบครัวด้วยเหมือนกัน เพราะเสี่ยเป็นคนที่ใช้เงินเก่ง ชอบสะสมรถและเรือราคาแพง แถมมีภาระเรื่องเมียและลูกๆ หลายคน การสร้างบ้านของเสี่ย ก็มักจะสร้างไปเรื่อยๆ สร้างแล้วทุบ ทุบแล้วสร้าง เป็นสิบๆ ครั้ง เสี่ยอูจึงต้องหารายได้พิเศษร่วมค้าแป้งที่น่าจะเป็นรายได้หลักประจำตระกูล และเป็นเหตุสำคัญที่ลุงและป้าต้องการกำจัดรักสิน เพราะเป็นศัตรูคนสำคัญที่ขัดขวางธุรกิจค้าแป้งของตระกูล

ต่างประเทศรู้กันดีและคอยจับตาเสี่ยอูเป็นพิเศษ ตอนที่เสี่ยอูหรือลูกน้องเดินทางไปต่างประเทศ ก่อนหน้านี้เคยเป็นข่าวที่อิตาลี แต่เคลียร์กันได้ ต่อมามีเรื่องที่โสภาวลีไปพลาดท่าที่ฝรั่งเศส โดยมีข้อมูลทางลับว่า ตัวการใหญ่อาจจะไม่ใช่แค่เสี่ย แต่น่าจะเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าเสี่ยขึ้นไปอีก ก็คือลุงสมชายนั่นเอง ที่วงในรู้ว่าเป็นหุ้นใหญ่เมืองยอนฝั่งพม่า หลังจากที่ป้าส่งคนไปเคลียร์เป็นทรัพย์สินหลายสิบล้านบาท

ทั้งให้นายกาสิดไปแก้ตัวกับทางการฝรั่งเศส ว่าเป็นเพราะเด็กติดต้นขั้วกระเป๋าผิดใบ พร้อมทั้งสั่งให้ทีมงานของห้อยและการบินไทย จัดการแก้ไขข้อมูลทั้งทางคอมพิวเตอร์และต้นฉบับพร้อมสำเนาผู้โดยสาร และสัมภาระให้เรียบร้อย อย่าให้โยงถึงครอบครัวของลุงเป็นอันขาด พยายามโยนความผิดไปให้พนักงานลำเลียงกระเป๋าขึ้นเครื่อง อ้างว่าต้นขั้วที่ติดกระเป๋าหลุด ก็เลยหยิบมาแปะ ไม่ได้ตรวจให้ดีก่อน ทั้งๆที่เป็นผู้โดยสารเครื่องบินชั้นหนึ่ง ซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ จึงไม่ค่อยมีใครเชื่อข้ออ้างนี้ เลยให้พวกลิ้มปล่อยข่าว ว่าเป็นกระเป๋าของรักสิน เพราะดูไบกำลังมีปัญหาขาดเงิน ทำให้รักสินต้องการใช้เงิน จึงต้องค้าแป้ง คือถ้ามีอะไรไม่ดีก็ให้โทษรักสินไว้ก่อน แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อ

ขณะที่ผู้ติดตามโสภาวลี 28 คนยังถูกทางการฝรั่งเศสจับตัวไว้ โดยให้ประกันตัวออกมาเพียงสองคนรวมทั้งโสภาวลี ซึ่งจะต้องไปรายงานตัวทุกๆเดือน ทั้งป้าและเสี่ยเองก็คงไม่อยากเดินทางไปฝรั่งเศสอีก พอเรื่องแดงขึ้นมา ทำให้ศิริวารีหรือตัวเล็กไม่พอใจมาก เธอคงอายที่ต้องใช้ชีวิตที่ฝรั่งเศส โดยผู้คนที่นั่นเชื่อกันว่า พ่อและย่าของเธอมีส่วนในการค้าแป้ง

เพชรซาอุ :
ความเห็นแก่ได้บนหายนะของชาติ


เดิมทีคนงานไทยจะไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอารเบียปีหนึ่งราว 250,000 คน หรือราว 60% ของแรงงานต่างชาติทั้งหมด ทำรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 60,000 ล้านบาท และประเทศซาอุยังนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งข้าวสาร เสื้อผ้า สิ่งทอ แต่ในปี 2552 จำนวนแรงเงินไทยในซาอุลดลงเหลือไม่ถึง 10,000 คนจากแรงงานต่างชาติทั้งหมด 8 ล้านคน

ปีๆหนึ่งจะมีชาวมุสลิมของไทยเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ (Hajj) ที่ซาอุเป็นจำนวนหลายแสนคนซึ่งประเทศซาอุก็ได้อำนวยความสะดวกให้กับชาวมุสลิมของไทยเป็นอย่างดี ทั้งขั้นตอนการทำหนังสือเดินทาง เที่ยวบินบินตรงสู่กรุงริยาด ความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม

เมื่อก่อนคนที่ทำงานในประเทศได้เงินเดือนแค่ 1,500 บาท แต่ไปทำงานซาอุได้เงินเดือน 15,000 บาท พร้อมสวัสดิการ และได้เรียนรู้เทคโนโลยี่ทันสมัย ตอนนั้นแรงงานไทยที่ไปทำงานที่ซาอุต้องเสียค่าหัวคิวรายละเป็นแสนบาท โดยมีหัวหน้ามาเฟียไทยเป็นผู้เรียกเก็บ ทางการซาอุก็พยายามปราบปราม และส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการสืบสวนอย่างลับๆ ทำให้วงจรอุบาทว์ส่วยแรงงานชะงัก และมีการสังหารเจ้าหน้าที่ซาอุที่เข้ามาสืบสวน หลายครั้งหลายหน

ประมาณปลายปี 2531 ขณะที่แรงงานไทยส่งไปซาอุยังเฟื่องฟู เมืองไทยกลายเป็นสวรรค์ของคนซาอุ แถวซอยนานา หรือ ซอยอาหรับ ถนนสุขุมวิทมักจะพบแต่คนแต่งกายชุดขาว ชุดดำคลุมศีรษะแบบอาหรับตะวันออกกลาง ที่พัทยาใต้ก็คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากซาอุ เรียกได้เลยว่าบริเวณทั้งสองแห่งนี้กลายเป็นเมืองตะวันออกกลางไปแล้ว ปมขัดแย้งครั้งแรก เริ่มเมื่อประมาณปลายปี 2531 มี เจ้าหน้าที่กงศุลของซาอุถูกลอบสังหารที่พัทยา ในขณะกำลังนั่งดื่มอยู่ที่บาร์เบียร์พัทยาใต้ โดยคนร้ายควบมอเตอร์ไซด์มีชายมือปืนนั่งซ้อนท้าย ไม่จับตัวคนร้าย

ต่อมาต้นปี 2532 นายซอและ เลขานุการทูตซาอุถูกสังหารด้วยปืนในเขตท้องที่ลุมพินี ในขณะที่การสืบสวนคดีเรื่องสังหารเจ้าหน้าที่ซาอุ และคดีนักธุรกิจซาอุหายตัวยังไม่คลี่คลาย ก็เกิดคดีโจรกรรมเพชรซาอุ เป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นอีก เมื่อประมาณปลายปี 2532 ตอนกลางๆเดือนธันวาคม มีข่าวว่ารัฐบาลซาอุประสานมายังรัฐบาลไทย ว่า มีคนไทยที่ไปทำงานในซาอุได้โจรกรรมเพชรล้ำค่า จากวังเจ้าชายไฟซาล มูลค่าหลายร้อยล้าน ทำให้ซาอุเข้มงวดแรงงานไทยที่จะไปทำงานซาอุฯมากยิ่งขึ้น



ขั้นต้นรัฐบาลไทยปฏิเสธ ต่อมารัฐบาลซาอุยืนยันว่า คนร้ายที่กระทำผิดเป็นคนไทยที่ไปทำงานในซาอุแน่นอน และได้หนีกลับประเทศไทยแล้ว ขอให้ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศซาอุ หลังจากเหตุการณ์กรณีเพชรซาอุ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องจบสิ้นลง

ทางการซาอุ ไม่อนุญาตให้แรงงานไทยเดินทางไปทำงานในซาอุ เหลือคนงานไทยในซาอุไม่ถึง 10,000 คน รวมถึงห้ามคนของประเทศซาอุเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำกัดการนำเข้าสินค้าทุกอย่างของประเทศไทย จำกัดผู้แสวงบุญที่จะต้องเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ งดเที่ยวบินบินตรงไปที่กรุงริยาด ถึงจะมีก็จะเป็นเที่ยวบินพิเศษ และจำกัดเที่ยวบิน


ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต ไม่มีเอกอัคราชทูต เหลือเพียงแค่อุปทูต ลดระดับความสัมพันธ์ของประมุขทั้งสองประเทศ ลองคำนวณดูว่าประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาสไปทั้งหมดตลอดระยะเวลา 20 ปี เป็นมูลค่าหลายล้านล้านบาท เพื่อแลกกับเพชรเพียง 12.5 กะรัต ที่ใครบางคนแอบยักยอกเอาเป็นของตนเองและยังสั่งฆาตกรรมฆ่าปิดปากเจ้าหน้าที่ ที่เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ของซาอุดิอารเบีย

เพชรซาอุที่กล่าวถึง เป็นเพชรสีน้ำเงินมีขนาด 12.5 กะรัต (1 กะรัต เท่ากับ 0.2 กรัม หรือ 1 กรัม เท่ากับ 5 กะรัต) ที่เรียกว่าชุดใหญ่ เป็นเพชรรดับสูงสุด มีธาตุโบรอนในผลึก มีสีฟ้า หายากที่สุด สามารถเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าได้ เจ้านายซาอุได้ทำลักษณะพิเศษ เมื่อยิงลำแสงอินฟาเรดเข้าไป จะพบสัญลักษณ์ประจำราชวงศ์ซาอุ เป็นเพชรที่มีความบริสุทธิ์สูงสุด น้ำงามไม่มีตำหนิ


ราวปี 2525 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนลำปาง จบมัธยมสามจากโรงเรียนในต่างจังหวัด ใช้เงินสองหมื่นบาทจ่ายเป็นค่านายหน้าสมัครไปทำงานที่ประเทศซาอุ ในตำแหน่งพนักงานบริษัทรับทำความสะอาด โดยถูกส่งไปเป็นทำหน้าที่รับใช้เจ้านายในวังแบบใกล้ชิด เข้านอกออกในได้ตลอดหลังจากทำงานได้ 7 ปี ในวังของเจ้าชายไฟซาลฟาฮัดอับดุลลาซิซ (Prince Fahd Abdulaziz) ลูกชายของกษัตริย์ไฟซาล (King Fahad bin Abdul Aziz Al Saud) คฤหาสน์แห่งนี้มีเนื้อที่ราวสิบไร่ มีห้องโถงต่างๆมากกว่า 100 ห้อง ทุกห้องไม่ได้ล็อคกุญแจ แถมยังเสียบกุญแจคาไว้ตามห้องต่างๆ รวมถึงตู้เซฟด้วย เพราะกฎหมายของเขาแรงมาก ถ้าจับได้ว่าใครขโมยของมีโทษสถานเดียว คือแขวนคอ นายเกรียงไกรทำงานอยู่ที่คฤหาสน์กษัตริย์ไฟซาล มานานจนเป็นที่ไว้วางใจและเป็นคนโปรดของเจ้านายมาก


นายเกรียงไกรให้การว่า ตนได้ลักลอบเอาเครื่องเพชรบรรจุลงในผลแอปเปิ้ล โดยคว้านเนื้อในออกแล้วใช้กาวปิดปิดทับโดยส่งแอปเปิ้ลกลับประเทศไทยเป็นลังๆ ในรูปของผลไม้ใส่กล่องส่งกลับไทยทางดีเอชแอล (DHL) ถือโอกาสช่วงที่กษัตริย์ไฟซาลและพระมเหสี ไปพักผ่อนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเดือนธันวาคม 2532 พลตำรวจตรีชำมะลอ ได้ตามจับจนได้ตัวนายเกรียงไกรและไปขุดเอาเครื่องเพชรที่ฝังไว้ในสวนกล้วยที่ลำปาง

การจับกุมนายเกรียงไกร ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุ เริ่มดีขึ้น โดยพลตำรวจตรีชำมะลอ ได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุห้เป็นแขกพิเศษ และถูกยกให้เป็นชี้ค


นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีต่างประเทศ ในรัฐบาลชาติชายได้เดินทางเอาเพชรไปคืนซาอุ แต่กลับถูกทางการซาอุตรวจพบว่า เป็นของปลอมเกือบครึ่ง และเพชรชุดสำคัญยังหายไปอีกมาก ทำให้ฝ่ายไทยต้องตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมา ตามหาเครื่องเพชรอีกครั้ง สาเหตุสำคัญ เพราะชำมะลอเป็นตำรวจที่ไม่สันทัดเรื่องงานเอกสารจึงไม่ได้ทำรายการให้ชัดเจน




แถมมีการเอาของกลางไปโชว์ในห้องนายใหญ่หัวหน้าตำรวจที่มีบิ๊กแหวง เป็นอธิบดีกรมตำรวจ





รวมทั้งบิ๊กหวาด รองอธิบดีกรมตำรวจ










และท่านสันหนองที่เป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ และเป็นนักเล่นของมีค่า โดยมีพ่อค้าเพชรชื่อสันติ คนสนิทของท่านสันหนองนั่งอยู่ด้วย สันหนองต้องการเอาใจนาย จึงแนะนำให้บิ๊กแหวงหยิบเอาเพชรสีน้ำเงินทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ ซึ่งเป็นชิ้นที่ดีที่สุด




บิ๊กแหวงเอาชุดเล็กให้ภรรยาของตนคือคุณหญิงอารีย์ (คนขวามือ) ส่วนชุดใหญ่เอาไปให้เปรมิกาเพื่อนำถวายป้าสมจิต
บังเอิญคุณนายอารีย์เอาไปใส่ออกงานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์วันเกิดเปรมิกาและมีภาพออกทางสื่อ สายสืบของซาอุจำได้ จึงทำหนังสือขอคืน


บิ๊กแหวงหัวหน้าตำรวจกลัวเสียหน้า จึงทำของปลอมส่งกลับไปให้ ส่วนของจริงก็ให้ลูกน้องหน้าห้องรูปหล่อที่ชื่อพงแพะ เอาไปขายที่นิวยอร์ค แต่ซาอุเขาวางสายไว้ทั่วโลก และสั่งให้ซื้อถ้ามีใครเอามาขาย พร้อมทั้งถ่ายรูปผู้นำมาขายด้วย จากนั้นจึงส่งเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นราชวงศ์ซาอุ ให้มาติดตามจนรู้ว่าเพชรสีฟ้าชุดใหญ่อยู่ที่ป้าสมจิต เปรมิกาได้ไปรายงานให้ป้าทราบเพื่อหาทางแก้ไข


แต่ป้าสั่งจัดการ สังหารปิดปากราชวงศ์ทั้งสองคนของซาอุ โดยให้ตำรวจที่ชื่อสมนึก กรรมสนองเป็นคนจัดทีมสังหาร โดยการฆ่ารัดคอเอาศพไปทิ้งแถวบ้านบึง ชลบุรี ตามที่ปรากฏเป็นข่าว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 เกิดเหตุฆาตกรรมนักการทูตซาอุ 3 คน ถูกยิงเสียชีวิต

หลังจากนั้น 12 กุมภาพันธ์ 2533 นายมูฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ( Mohammad Al-Ruwaily ) นักธุรกิจเชื้อพระวงศ์เพื่อนของนักการทูตทั้งสาม ได้เดินทางมากรุงเทพ เพื่อสืบสวนหาเครื่องเพชรดังกล่าว แต่เขาถูกลักพาตัวและถูกฆ่า คนที่ต้องเอาศพไปทิ้งไม่กล้าไปเอง จึงใช้ลูกน้องตำรวจสองคนไปจัดการ พอตอนยกศพลงจากรถ ลูกน้องสองคนนี้เห็นแหวน หัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์พร้อมทั้งกระเป๋าเงินจึงแอบหยิบเอามาเป็นของตน พอมาสมัยรักสินได้ส่งมือปราบฝีมือดีชื่อทวี สอดส่ายไปสืบจนได้ตัวคนหามศพทั้งสองคนพร้อมแหวนและหัวเข็มขัดทองคำประจำราชวงศ์ซาอุส่งกลับคืน

บิ๊กแหวงหัวหน้าใหญ่ ใช้ให้เสี่ยสันติ
เป็นพยาน เท็จ
ใส่ความว่าชำมะลอเป็นคนเอาเพชรไป นายตำรวจลูกน้องของชำมะลอจึงจับตัวลูกและเมียเสี่ยสันติ เพื่อเป็นตัวประกันต่อรองกับเสี่ยสันติ แต่ทำให้ต้องเสียชีวิต กลายเป็นคดีฆาตกรรม ที่ชำมะลอและพรรคพวกต้องรับโทษถึงขั้นจำคุกตลอดชีวิตและต่อมาก็โดนเพิ่มโทษถึงประหารชีวิต เพื่อปิดปากปิดคดี ให้ผู้ร้ายตัวจริงที่ยักยอกเพชรสีน้ำเงินลอยนวลต่อไป


หัวหน้ารักสินให้มือปราบทำการสอบสวนตรวจสอบจนได้ความจริงทั้งหมด จึงเข้าไปขอร้องป้าสมจิตให้คืนเพชรสีน้ำเงินแก่ราชวงศ์ซาอุ เพราะได้คุยตกลงกับซาอุไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ให้เอาเรื่องกัน เพื่อจะได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อแรงงานไทย และเศรษฐกิจของประเทศจำนวนมหาศาล ที่ถูกสั่งระงับไปเป็นเวลาหลายปี โดยรักสินจะซื้อเพชรที่สวยและแพงไม่แพ้กัน มาให้ป้าสมจิตแทนของเดิมที่ต้องคืนให้เขาไป แต่ป้าไม่ยอม และโกรธมาก เหมือนถูกหยามเกียรติ กลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ป้าต้องรีบกำจัดรักสิน



นายเกรียงไกรถูกตัดสินจำคุกที่อยุธยา ฐานลักทรัพย์นายจ้าง และลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โทษจำคุก 7 ปี สารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คือ จำคุก 3 ปี 6 เดือน แต่ติดคุกจริง แค่ 2 ปี 8 เดือน ส่วนนิยายที่ว่าป้าแบ่งเพชรเป็นสามส่วนก็คงจะเป็นได้ยาก ป้าคงไม่ยอมแบ่งให้มันด้อยค่าลงไปโดยไม่จำเป็น เพราะป้าเชื่อว่าเพชรสีน้ำเงินเป็นของป้าจริงๆ เป็นวาสนาของป้าที่ได้ครอบครองเพชรสีน้ำเงินแม้ว่าเมื่อก่อนมันจะไม่ใช่ของป้าก็ตาม และป้าจะไม่ยอมคืนให้ใครเด็ดขาด เช่นเดียวกับที่ลุงได้สั่งพวกหัวหน้าเสื้อเหลือง ให้ไปทวงเขาพระวิหารคืนมาให้ได้ เพราะลุงสมชายเชื่อมาตลอดว่าเขาพระวิหารเป็นของลุงจริงๆ

ต้นปี 2554 กรมสืบสวนคดีพิเศษซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประเทศซาอุและรัฐบาลไทยได้พบของกลางเพิ่มเติม และได้ส่งมอบให้ทางการซาอุได้ดูแล้ว แต่ถ้าได้เพชรสีน้ำเงินคืนก็จะทำพิธีส่งมอบ ที่ฝ่ายปกครองทุกยุคทุกสมัยได้ทุ่มเททั้งงบประมาณ เวลา และเจ้าหน้าที่ เพื่อจะนำของกลางมาคืนให้ซาอุ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเมืองทั้งสอง ท่านรองผู้กองได้ประกาศว่า

“ใครที่ครอบครองเพชรซาอุ หากต้องการจะส่งเพชรคืนสามารถใส่ห่อส่งคืนได้ที่กองสืบสวนคดีพิเศษ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดเพราะคดีขาดอายุความแล้ว ถึงแม้ว่าท่านครอบครองไว้ก็ไม่สามารถทำให้รวยเพิ่มขึ้น ตรงกันข้ามหากเรานำไปคืนแก่เจ้าของเขา ทางซาอุอาจจะให้คนไทยเข้าไปทำงาน หรือให้คนซาอุมาเที่ยวประเทศไทย เป็นการสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมหาศาล แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือศักดิ์ศรีของชาวไทย ที่จะไม่ให้ใครต่อว่าได้ว่าเป็นคนขี้โกง” คำประกาศของท่านรองอธิบดีคงไม่มีผลมากนัก เพราะนายกรักสินก็เคยเสนอป้าสมจิตมานานแล้ว ขนาดว่าจะซื้อให้ใหม่ชุดใหญ่กว่าเดิม แต่ป้าสมจิตแกก็ยังไม่ยอม แถมยังเร่งหาทางกำจัดรักสินโดยเร็วที่สุดอีกด้วย


สวนน้ำสเปนที่ยิ่งใหญ่
: ใครเป็นเจ้าของ


ลุงสมชายมักจะโฆษณาสั่งสอนประชาชนให้รู้จักพอเพียง ประหยัดมัธยัสถ์ แม้แต่การใช้ยาสีฟันที่รีดหลอดจนแบนทั้งๆที่เป็นสิ่งเล็กน้อยมากและไม่มีสาระก็ยังเอามาโฆษณากันใหญ่โต


ซึ่งตรงกันข้ามกับรถราคาหลายสิบล้านบาทที่ลุงสมชายนั่ง หรือเครื่องบินราคานับพันล้านบาทที่ลูกหลานของลุงสมชายใช้เดินทางเที่ยวต่างประเทศเป็นประจำ รวมทั้งการเฉลิมฉลองโฆษณาให้ตนเองทั่วประเทศอีกปีละนับหมื่นล้านบาท นิตยสารของฝรั่งได้สำรวจจัดอันดับให้ลุงสมชายเป็นคนชั้นสูงที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกด้วยมูลค่าทรัพย์สินที่สำรวจได้กว่า 35 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่าหนึ่งล้านล้านบาท

แต่สำนักงานมหาสมบัติของลุงสมชายก็ออกมาแก้ตัวว่า ไม่ใช่ทรัพย์สินของลุงแต่เป็นทรัพย์สินของประเทศไทย ก็เหมือนกับที่โฆษณาว่าอำนาจการปกครองเป็นของราษฎร แต่ลุงสมชายเป็นคนใช้อำนาจทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

ลุงสมชายมิใช่จะร่ำรวยแค่ในประเทศ แต่ยังมีธุรกิจใหญ่ในต่างประเทศหลายแห่ง โดยไม่ยอมเปิดเผยแบบตรงไปตรงมา ถ้าเป็นนักการเมืองก็เข้าข่ายปิดบังหรือแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ


นอกจากนี้ลุงสมชายยังมีพฤติกรรมที่เบียดบังใช้งบประมาณและบุคคลากรของราชการเพื่อกิจการของตนเอง และมีการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในเชิงนโยบายแบบมีกฎหมายคุ้มครอง โดยอ้างว่า ทรัพย์สินของลุงก็คือทรัพย์สินของประเทศจึงไม่ต้องเสียภาษี ถ้าไม่เชื่อก็ให้ไปฟ้องศาลของลุงดูก็ได้



สวนสยาม (Siam Park) ที่สเปน ถูกออกแบบและสร้างขึ้นโดยได้รับอนุญาตจากลุงสมชาย กัญญาพี่สาวของลุงไปดูแลและเริ่มต้นก่อสร้างในปี 2547 ด้วยเงินทุนถึง 2,600 ล้านบาท บนเนื้อที่ กว่า 115 ไร่ สวยงามอลังการที่สุด มี 10 ส่วน อาคารขนาดใหญ่ 25 หลัง เครื่องเล่นขนาดใหญ่ 10 ชนิด มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีภัตตาคารขนาดใหญ่ โรงแรมที่พัก 5 ดาว ผู้ออกแบบเป็นถึงศิลปินแห่งชาติ

ลุงอาศัยหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนการทำสวนน้ำ เพราะประหยัดเงินของตนเอง ใช้คนของ กระทรวงพาณิชย์ไปจัดงานดึงดูดลูกค้าให้มาท่องเที่ยวสวนน้ำของลุง กระทรวงการท่องเที่ยว ต้องเช่าสำนักงานที่สเปน ช่วยการประชาสัมธ์ กระทรวงการคลังจ่ายเงินค่าเช่า 160,000 ยูโร หรือราว 6,500,000 บาทต่อ เดือน

กระทรวงวัฒนธรรม และกรมศิลปากรช่วยออกแบบก่อสร้าง และบูรณะสถานที่ กระทรวงเกษตร จัดหาต้นไม้ นำไปปลูก และตกแต่ง กระทรวงการต่างประเทศ คอยหาสมาชิกและลูกค้าต่างชาติ
กระทรวง อุตสาห กรรม คอยหาคนไปร่วมลงทุนในธุรกิจ เช่น โรงแรม ภัตตาคาร กระทรวงคมนาคม หาทางเปิดเส้นทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า สมัยนายกรักสินไม่กล้าเซ็นงบลับให้ลุง แต่ก็มาสมัยสุรายึดรีบเซ็นงบลับสนับสนุนทันที ค่าก่อสร้างได้มาจาก เงินงบประมาณของรัฐ

โดยหญิงกลางสิรินเทพไปทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ ที่ 15 กันยายน 2551 ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมาก ใช้ทีมงานที่ก่อสร้างดิสนีย์แลนด์จากสหรัฐทั้งหมด เริ่มก่อสร้างเดือนกรกฎาคม 2547 โดยกัญญาพี่สาวลุงไปลงนาม

ช่วงแรกใช้เงินของสำนักงานของลุง จึงมีการเพิ่มค่าเช่าที่ดินของลุง และเพิ่มดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ของลุง เพื่อนำรายได้จำนวนมากไปใช้เป็นค่าก่อสร้างให้เสร็จตามกำหนด แต่เกิดวิกฤตไข้หวัดนก และคลื่นซึนามึ ทำให้ขาดเงินอัดฉีด แม้ว่าลุงจะมีที่ดินเกือบ 50,000 สนามฟุตบอลหรือราว 23,000 ไร่ในกรุงเทพ และเกือบ 200,000 สนามฟุตบอลหรือราว 90,000 ไร่ ในต่างจังหวัดและรวมไปถึงหุ้นอีกมากมายมหาศาล แต่ลุงและป้าไม่ยอมถอนเงินหรือขายหุ้น โดยยึดหลักการฝากอย่างดียวไม่ให้มีการถอน ฉะนั้นแม้ลุงมีเงินมากแค่ไหนมันก็ไม่พอใช้

เมื่อเป็นเช่นนี้การก่อสร้างก็ชะงัก ลุงให้ป้าเรียกนายกรักสินมาขอความช่วยเหลือ โดยขอเบิกเงินงบประมาณด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งอาจทำให้นายกรักสินติดคุกได้ รักสินจึงต้องให้บริษัทของตนเข้าไปช่วย ต่อมาป้าก็ยังมาขอให้ช่วยอีก แต่รักสินเห็นท่าว่าไม่ไหวจึงปฏิเสธไป ทำให้ป้าและลุงไม่พอใจมาก ภายหลังพอได้สุรายึดและอภิเสกมาเป็นนายก ก็รีบทำทุกอย่างให้ทันทีโดยไม่ต้องคิดไม่ต้องถาม แผนงานก่อสร้างสวนน้ำของลุงจึงสำเร็จลุล่วง ส่วนฝรั่งที่ว่าเป็นเจ้าของ ก็เป็นแค่ลูกจ้าง ที่กินเงินเดือนของลุงอีกที

ป้าสมจิตไปซื้อโรงแรมเก่าแห่งนี้ เมื่อสิบกว่าปี แล้วเอาพนักงานมาฝึกงานที่โอเรียนเต็ล เพราะป้าจะเก็บไว้เป็นบ้านพักตากอากาศ ของตกแต่งในโรงแรมนี้หลายอย่างเป็นของมีค่าเก่าหายากจากเมืองไทย คนธรรมดาไม่มีสิทธิ์นำออกนอกประเทศ เช่น ประตูวัดเก่าแก่ ก็กลายมาเป็นประตูทางเข้าสปาแบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ มีรูปป้าสมจิตและคนอื่นๆ ประดับทั่วไปเหมือนจะบอกให้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ

สวนสัตว์บกสัตว์น้ำก็ใหญ่โตมโหฬาร นำปลาวาฬจากอเมริกามาโชว์ 4 ตัว นกเพนกวินอีกหลายร้อยที่อยู่ในโรงจำลองชีวิตแบบขั้วโลกใต้ มีพนักงานมากมาย มีบ้านทรงไทยหลายหลัง นักท่องเที่ยวหนาแน่น สวนน้ำก็ใหญ่โตมฬารตระการตาไม่มีใครเทียบได้เลย อาคาร 20 แห่งได้รับการออกแบบจากศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่ไม่มีใครเหมือน แต่ใช้ชื่อนักธุรกิจชาวเยอรมัน มีห้องโรยัลสวีทกันกระสุนบนชั้นห้า ถ้าถูกระเบิด ห้องนี้จะค่อยๆลอยลงมาสัมผัสพื้น ราคาห้องพักคืนละสองพันยูโรหรือราวหนึ่งแสนบาท

หลังจากที่เปิดสวนน้ำได้ไม่นาน อภิเสกก็ออกระเบียบยกเว้นภาษีให้ และเปิดเส้นทางบิน ทั้งๆที่เพิ่งปิดไปเพราะขาดทุน จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้ลุงกับป้าทั้งรักและหวงอภิเสกมาก สวนน้ำมีรายได้เดือนละ 80-110 ล้านบาท โดยไม่ต้องเสียภาษี เพราะเป็นของลุงจึงได้รับการยกเว้น



นอกจากนี้ลุงยังเป็นเจ้าของโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่ง ในกลุ่มเคมพิน สกี้ ( Kempin ski  ) ทั่วทุกมุมโลก โดยมีฐานใหญ่ที่เมืองหลวงของเยอรมันตั้งอยู่กลางใจเมือง สร้างเสร็จได้ไม่เกิน 6 ปี ใช้เงินเกือบ 5,000 ล้านบาท เสี่ยและนุ้ยไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่โรงแรมนี้และมีลูกสาวด้วยกัน

............

ไม่มีความคิดเห็น: