วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ความเข้าใจผิดเรื่องสถาบันกษัตริย์

ความเข้าใจผิดเรื่องสถาบันกษัตริย์
...........



-อ้างว่ามีบุญคุณกับคนไทย เพราะทำให้ไทยเป็นเอกราช
ผู้ที่กอบกู้เอกราชของชาติไทย
แท้จริงผู้ที่กอบกู้เอกราชของชาติไทย คือ
พระเจ้าตากสินมหาราช ต่อมาถูกพระยาจักรียึดอำนาจเมื่อ 6 เมษายน 2325 แล้วสถาปนาราชวงศ์จักรีมาจนถึงทุกวันนี้

และไทยเกือบเสียเอกราชอีกครั้ง ในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นายปรีดี พนมยงค์ นำประเทศไทยรอดพ้นสภาพการตกเป็นเมืองขึ้น หรือประเทศแพ้สงคราม โดยจัดตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้น ต่อมานายปรีดีถูกกลุ่มนิยมเจ้าใส่ความ ว่าเกี่ยวข้องกับการสวรรคตของรัชกาลที่ 8 จนต้องลี้ภัย ไปถึงแก่อสัญกรรมในต่างประเทศ

-สถาบันกษัตริย์มีบุญคุณต่อคนไทยอย่างใหญ่หลวง เพราะในหลวงมีโครงการพระราชดำริมากมาย ช่วยคนไทยให้พ้นความลำบากยากจน
ความจริง คือ โครงการพระราชดำริไม่ได้ใช้เงินส่วนพระองค์ แต่เป็นหน่วยงานราชการคือ
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ-กปร.

- ในหลวงเป็นแบบอย่างความสมถะพอเพียง คนไทยต้องเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ข้อเท็จจริง คือ นิตยสารฟอร์บ Forbes ได้จัดอันดับให้ในหลวงภูมิพล
เป็นกษัตริย์ที่รวยที่สุดในโลก เหนือกว่าสุลต่านบรูไน และกษัตริย์ของอาหรับที่มีบ่อน้ำมัน ส่วนบลูมเบิร์ก bloom berg จัดให้ในหลวงเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ในตลาดหุ้นไทย ในหลวงไม่ได้มีเฉพาะโตโยต้าโซลูน่าคันเล็กๆ แต่รวมถึงรถยนต์มายบั๊ค คันละ 300 ล้านบาท และเครื่องบินอีกนับสิบลำ ซึ่งใช้เงินงบประมาณแผ่นดินจัดซื้อและจัดซ่อมบำรุง มีบุคคลต่างๆที่เป็นพ่อค้า เศรษฐี หน่วยงาน คณะบุคคลได้เข้าเฝ้าถวายเงินเพื่อใช้สอยตามพระราชอัธยาศัยเป็นประจำทุกวัน หากเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ จะได้เฝ้าฯทุกวันอย่างนี้หรือไม่ เพราะไม่มีเงินมากมายไปถวาย
- สำนักงาน ทรัพย์สินส่วนพระ มหา กษัตริย์เป็นของชาติ ไม่ใช่ของส่วนพระองค์ และจ่ายภาษีถูกต้อง
ความจริง คือ กฎหมายระบุไว้ว่ารายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ให้นำทูลเกล้าฯ
ถวายเพื่อทรงใช้จ่ายในฐานที่ทรงเป็นประมุข รายได้ซึ่งได้หักรายจ่ายตามความในวรรคก่อนแล้ว จะจำหน่ายใช้สอยได้ก็แต่โดยพระมหากษัตริย์ ตามพระราชอัธยาศัย

-คนไทยต้องสำนึกในบุญคุณของในหลวง เพราะท่านทำเพื่อคนไทยอย่างไม่เห็นแก่เหนื่อยยาก
ข้อเท็จจริง คือ มีการจัดสรร
งบประมาณ ปีละไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท เฉพาะที่จัดสรรให้แก่สำนักพระราชวังนั้นปีงบประมาณล่าสุด 2,364.6 ล้านบาท และยังไม่นับรวมกับที่อยู่ในหน่วยงานกระทรวง ทบวง กรม กองทัพต่างๆ อีก ปีละไม่ต่ำกว่า6,000ล้าน

- สถาบันกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง จึงไม่ควรวิจารณ์ ต้องวิจารณ์พวกนักการเมืองโกงกินจึงจะถูก ความจริง คือ ไทยยังเป็นระบอบราชาธิปไตย จากการที่ทรงมีพระราชอำนาจลงนามแต่งตั้งทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ ผู้บริหารระดับสูงในกองทัพ และหน่วยงานต่างๆ บางครั้งมีหลักฐานว่าอาจเข้ามาแทรกแซงการเมือง เช่น กรณีรัฐประหารปี2500ของจอมพลสฤษดิ์,การสนับสนุนให้จอมพลถนอมกลับประเทศไทย และเกิดกรณี6ตุลาคม2519 หรือกรณีพระราชวงศ์ชั้นสูงไปงานศพของพันธมิตรเมื่อ13ตุลาคม2551 ในขณะเดียวกันเมื่อมีอำนาจในทางต่างๆ

แต่เนื่องจากมีกฎหมายอาญาควบคุมไม่ให้เกิดการวิจารณ์ใดๆ จึงทำได้แต่เชิดชูด้านเดียวเท่านั้น คนที่ไม่รักเทิดทูนสถาบันไม่สมควรอยู่เป็นคนไทย ต้องไล่ไปอยู่ประเทศอื่นให้หมด
ข้อเท็จจริง คือ คนไทยต้องการให้ประเทศพัฒนาไปทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศ ซึ่งมีความจำเป็นอยู่มากที่สถาบันกษัตริย์ ควรต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับกาลสมัย เพราะหากยังเป็นแบบที่เป็นมา มีจุดอ่อนอยู่หลายข้อ แต่ไม่ปรับปรุง กลับให้เชิดชูสอพลออย่างเดียว ห้ามวิจารณ์ ในที่สุดก็จะทำให้สถาบันเป็นสิ่งที่พ้นสมัยไปในที่สุด


...............

ไม่มีความคิดเห็น: