ฟังเสียง : http://www.4shared.com/mp3/9OdQPZFd/Stupid_Logic_on_Thaksinocracy_.html
หรือที่ : http://www.mediafire.com/listen/fupttbwuspm534f/Stupid_Logic_on_Thaksinocracy_.mp3
ตำนานๆ ตอน ตรรกะแบบหมาๆว่าด้วยระบอบทักษิณ
( Stupid Logic on Thaksinocracy )หรือที่ : http://www.mediafire.com/listen/fupttbwuspm534f/Stupid_Logic_on_Thaksinocracy_.mp3
ตำนานๆ ตอน ตรรกะแบบหมาๆว่าด้วยระบอบทักษิณ
วาทกรรม ระบอบทักษิณ
ในการเคลื่อนไหวของแนวร่วมกลุ่มนิยมเผด็จการดักดานเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2540 ได้มีการสร้างและประโคมวาทกรรมระบอบทักษิณตั้งแต่เริ่มต้นการก่อกระแส ไปจนถึงการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 แล้วยังถูกใช้ต่อมาอีกเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหารทุกรูปแบบ โดยอิงแอบอยู่กับสถาบันกษัตริย์ที่ต่อต้านประชาธิปไตย ปฏิเสธทุนนิยมสมัยใหม่ และต่อต้านโลกาภิวัฒน์
พันธมารชูระบอบทักษิณขึ้นมาโจมตี |
พันธมารเคลื่อนไหวใหญ่ล้มรัฐบาลไทยรักไทย |
ประชาธิปไตยทั่วโลก
เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กับหนังสือรู้ทันทักษิณ |
การชูคำขวัญโค่นล้มระบอบทักษิณ จึงเป็นเพียงเรื่องโกหกที่ใช้หลอกคนทั่วไป โดยอ้างว่าระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ2540 ได้ถูกละเมิดหรือทำลายไปก่อนแล้วโดยระบอบทักษิณที่เป็นเผด็จการทรราชย์ของนักการเมืองที่ทุจริตและขายชาติ ดังนั้นการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จึงไม่ใช่การโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยและฉีกรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณที่เป็นเผด็จการและทุจริตคอรัปชั่น
สื่อไทยประโคมข่าวสนับสนุนการปล้นอำนาจ |
ขาประจำบางส่วนที่ร่วมถล่มรัฐบาลทักษิณ |
ม.รังสิตของอาทิตย์ อุไรรัตน์แห่งพรรคแมลงสาบ มอบปริญญาเอก ให้พวกต่อต้านรัฐบาลทักษิณ รวม 12 คน เมื่อ 14 ธค. 2551 |
การทรมานนักโทษในเรือนจำอ่าวกวนตาโนโม |
โทนี่แบลร์ นำประเทศเข้าสู่สงครามอิรัคและอัฟกานิสถาน |
วาทกรรมระบอบทักษิณยังมีเจตนาจะบิดเบือนต้นตอปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทย โดยให้ผู้คนเข้าใจว่า นักการเมืองและ รัฐธรรมนูญ 2540 นี่แหละคือต้นเหตุแห่งความฉิบหายทางการเมือง ทั้งๆที่ต้นเหตุปัญหาที่แท้จริงของการเมืองไทยคือ อำนาจของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่ผูกขาดกลไกอำนาจรัฐมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2500 จนถึงปัจจุบัน และเป็นอำนาจแฝงเร้นที่ขัดขวาง กัดเซาะ และบ่อนทำลายประชาธิปไตย ทำให้รัฐธรรมนูญและสถาบันการเมืองประชาธิปไตยอ่อนแอ ขี้โรค ไม่พัฒนา และถูกทำลายได้ง่ายตลอดมา
เสรี วงศ์มณฑาเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง วันชัย สอนศิริ รายการคลายปม สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ |
ผู้ประดิษฐ์และใช้วาทกรรมระบอบทักษิณ ล้วนเป็นพวกต่อต้านประชา ธิปไตยและการเมืองแบบเลือกตั้ง โดยมองว่า การเลือกตั้งเป็นเพียงเรื่องโกหกจอมปลอม เป็นประชา ธิปไตย สามานย์ ที่ผลิตแต่นักการเมืองเลวๆ ขึ้นสู่อำนาจทั้งนั้น คนพวกนี้เชื่อในลัทธิชนชั้นผู้นำและระบอบอภิสิทธิ์ชน เชื่อว่า ต้องให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ผู้นำต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเอาเข้าจริงก็ล้วนคลุมเครือ เป็นเรื่องเพ้อฝันที่ไม่มีอยู่จริง เพราะในท้ายสุด คนดี มีคุณธรรมจริยธรรม ที่สมควรมีอำนาจปกครองในความคิดของพวกเขาก็คือพวกเขาเองนั่นแหละที่มีทั้งชาติวงศ์ตระกูล ทรัพย์สิน การศึกษา และ คุณธรรมจริยธรรมที่เพียบพร้อม และเป็นเพียงคนส่วนน้อยของสังคมเท่านั้น
คนพวกนี้ปฏิเสธความจริงที่ว่า ผู้ปกครองไม่ว่าจะมาจากชนชั้นไหน ก็ล้วนเป็นมนุษย์ธรรมดาที่เห็นแก่ประโยชน์ตนกันทั้งนั้น ล้วนชอบใช้อำนาจ ไม่ชอบถูกตรวจสอบ ไม่ชอบข้อจำกัดทางกฎหมาย มักเล่นพรรคเล่นพวก และมีแนวโน้มทุจริตถ้ามีโอกาส
การเมืองในระบอบประชาธิปไตยจึงไม่ใช่เรื่องของการให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง แต่เป็นการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยและรัฐธรรมนูญ ตลอดจนสถาบันและประเพณีปฏิบัติทางประชาธิปไตยต่างๆ ตามหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล เพื่อเป็นกรอบจำกัดและกดดันให้ผู้ปกครองและนักการเมืองต้องใช้อำนาจไปในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด
มือที่ไม่มองก็เห็น
สโรชา พรอุดมศักดิ์ กับ สนธิ ลิ้ม ช่อง 9 เริ่ม 1 กค. 2546 |
ในเดือน กันยายน 2548 หลังจากที่ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ระงับรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ และถูกฟ้องร้องโดยนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ทั้งคดีแพ่ง และคดีอาญา เป็นจำนวนเงินรวม 2,000 ล้านบาท ด้วยข้อหาหมิ่นประมาท และดูหมิ่น
นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้จัดรายการของตนเองขึ้นมาใหม่ ในชื่อว่า เมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ที่เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ทุกคืนวันศุกร์ กล่าวหาโจมตีการคอรัปชันของนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และเครือญาติมิตรของนายกทักษิณ เพียงอย่างเดียว ภายใต้คำขวัญ "เราจะสู้เพื่อในหลวง" "ถวายคืนพระราชอำนาจ" และ "ขอเป็นยามเฝ้าแผ่นดิน" ในช่วงท้ายของรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2548 นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้นำกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อกษัตริย์ภูมิพล เพื่อถวายคืนพระราชอำนาจ และขอผู้นำการปฏิรูปการเมืองเพื่อจัดโครงสร้างทางการเมืองใหม่ ให้หลุดพ้นจากการครอบงำของนายทุนพรรคการเมือง และเกิดประโยชน์สุขต่อปวงประชากร
สนธิลิ้ม ขอนายกพระราชทาน เวทีมัฆวาน 24 มีค. 2549 |
สนธิลิ้มกลุ่มพันธมารกู้ชาติถวายคืนพระราชอำนาจ |
สนธิลิ้มโจมตีนายกทักษิณทุกเรื่องติดต่อกันยาวนาน |
เมื่อการเมืองมันเป็นอย่างนี้ มันก็เลยมีการละเมิดพระราชอำนาจตลอดเวลา พระเจ้าอยู่หัวพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมากี่ปีแล้ว ไม่เคยทำ
สนธิ ลิ้มกล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณ |
พันธมารต้องการฟื้นคืนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ |
สนธิ ลิ้มอ่านคำถวายฎีกา ให้ใช้พระราชอำนาจแก้ปัญหา 4 กพ. 2549 |
หนังสือพระราชอำนาจ
เสนาะ เทียนทอง และประมวล รุจนเสรี เวทีพันธมาร สนามหลวง 27 กพ. 2549 |
หนังสือพระราชอำนาจยกย่องกษัตริย์ |
"เรา" ทรงชี้ที่อกของพระองค์ "ให้ไปบอกเขาว่า เราชอบมาก" ผู้เขียนคือนายประมวลได้รับทราบจากนายปีย์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2548 เวลา 17.00 น. ณ บ้านของนายปีย์ ด้วยความปลื้มปีติและสุขสงบเอ่อล้นท่วมหัวใจ ต่อมาได้เกิดการชุมนุมขับไล่นายกทักษิณ ในปี 2549 ที่ท้องสนามหลวง ทั้งนายประมวลและนายเสนาะได้ขึ้นเวทีปราศรัยของพันธมารที่มีนายสนธิ ลิ้มทองกุลเป็นหัวหน้าใหญ่
เนื้อหาใจความสำคัญของหนังสือเรื่องพระราชอำนาจก็คือ กษัตริย์ไทยไม่ได้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญทุกฉบับต้องให้กษัตริย์ลงนามเห็นชอบก่อน จึงจะประกาศใช้บังคับได้ แสดงว่ากษัตริย์ไทยใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญ นอกจากนี้กษัตริย์ไทยยังมีพระราชอำนาจตามนิติประเพณีอีกมากมาย คนไทยส่วนใหญ่ทราบดีว่า ยามที่เกิดวิกฤติการณ์ขึ้นในบ้านเมือง กษัตริย์ของคนไทยจะทรงแก้ไขวิกฤติการณ์เหล่านั้นได้เสมอ
สนธิลิ้มกับสโรชาที่บ้านพระอาทิตย์ 15 กย. 2548 |
ปฐมบรมราชาภิเษกอันศักดิ์สิทธิ์ |
พัลลภ ปิ่นมณี แฉ ปีย์ มาลากุล คิดเก็บนายกทักษิณ |
ปีย์ มาลากุล เพื่อนสนิทของกษัตริย์ภูมิพล |
- ทางด้านรัฐธรรมนูญ หรือทางด้านกฎหมาย
- ถ้าแนวทางแรกไม่สำเร็จ ก็จะทำรัฐประหาร
ปีย์ มาลากุล พระสหายสนิท |
ปราโมทย์ นาครทรรพ บนเวทีพันธมาร |
การคุยกันในวันนั้นที่บ้านนายปีย์จึงน่าจะเป็นการเรียกประชุมเพื่อมอบหมายงาน แต่นายปีย์เกิดจำสับสน ไปเอาเรื่องที่ยังไม่เกิดหรือแผนที่ยังไม่ได้ทำเอาขึ้นมาพูดแก้ตัว
พล.อ.พัลลภได้เปิดเผยว่า นายปีย์ ได้ถามตนว่า “ทำให้ทักษิณ หายไปได้ไหม ” ซึ่งก็คือ “สังหารทักษิณได้ไหม ” พล.อ.พัลลภได้ตอบไปว่า “ เป็นการยากทำไม่ได้ เพราะท่านมีรปภ.จำนวนมาก คงจะต้องยิงกันเละจนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่สามารถทำให้ตายได้ ”
ชาญชัย ศาลฎีกา อักขราทร ศาลปกครอง และผัน จันทรปาน ศาลรัฐธรรมนูญ ร่วมประชุมหาทางล้มรัฐบาล 16 พค. 2549 |
...นายปีย์และพรรคพวกจึงน่าจะมีความผิดฐานจ้างวานฆ่าผู้อื่น และร่วมกับพวกกระทำความผิดฐานล้มล้างรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อสังเกต ก็คือ คนอย่างนายปีย์ ในฐานะเจ้าของบ้านก็เป็นแค่นักธุรกิจ ส่วนนายปราโมทย์ก็เป็นเพียงคนที่ดีแต่ตีฝีปากพ่นไปวันๆไม่ได้มีพิษสงอะไร แม้แต่พล.อ.สุรยุทธ์ก็เป็นแค่องคมนตรี
อักขราทร จรัล ชาญชัย นัดหารือกัน 18 กค. 2549 |
ชลิต พุกผาสุข เป็นผบ.ทอ.ตัดหน้าสุกำพล สุวรรณทัต |
ทหารเป็นของพระราชา
พลเอกเปรมกับบรรดาลูกๆป๋า ที่ได้ดิบได้ดี |
เปรม เดินสายปลุกปั่นให้ทหารเป็นกบฏต่อรัฐบาล |
พล.อ.เปรม ทหารแก่ไม่เคยเลิกวุ่นวาย |
ทหารราบรักษาพระองค์ กำลังหลักที่ล้มล้างการปกครอง |
กษัตริย์ภูมิพล จอมทัพไทย หรือเจ้าของคอกม้า |
เป็นการเปิดตัวมือที่มองไม่เห็น หรือที่จริงก็คือ มือที่ไม่มองก็เห็นแต่พูดถึงไม่ได้ เพราะจะเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เนื่องจากไปพูดความจริงที่พาดพิงถึงกษัตริย์ภูมิพลผู้บงการตัวจริงนั่นเอง
ศาลเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ
สุนทรภู่ ช่วงเดินทางไปสุพรรณบุรี |
สุนทรภู่เปรียบตุลาการเหมือนเหยี่ยวคอยโฉบเอาของชาวบ้าน |
ร่อนร่ายหมายมัจฉา โฉบได้
ขุนนางอย่างเฉี่ยวกา กินสัตว์ สูเอย
โจมจับปรับไหมใช้ เช่นข้า ด่าตีฯ
ยางเจ่าเซาจับจ้อง จิกปลา
กินเล่นเป็นภักษา สุขล้ำ
กระลาการท่านศรัทธา ถือสัตย์ สวัสดิ์แฮ
บนทรัพกลับกลืนกล้ำ กล่าวคล้าย ฝ่ายยางฯ
ระบอบทาสไพร่ของไทยที่มีติดต่อกันมานาน |
ตุลาการและผู้ปรับหรือผู้พิพากษานั้น เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายบริหาร เหมือนรัฐโบราณโดยทั่วไป คน เหล่านี้ไม่มีเงินเดือน บางคนในกลุ่มคนเหล่านี้อาจได้รับเบี้ยหวัดเป็นรายปี ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนน้อยเกินกว่าจะเลี้ยงชีพได้จริง รายได้ของพวกเขาจึงมาจากการทำราชการ ซึ่งมีส่วนแบ่งผลประโยชน์ ทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายหลายอย่าง นับตั้งแต่มีแรงงานไพร่ไว้ใช้ฟรี ไปจนถึงเก็บเบี้ยบ้ายรายทางกับราษฎรในเรื่องจิปาถะ งานพิจารณาพิพากษาอรรถคดีก็เป็นแหล่งรายได้อย่างหนึ่ง
การไต่สวนนักโทษสมัยรัชกาลที่ 5 |
หนทางที่จะใช้บริการของกระบวนการยุติธรรมที่เหมือนเหยี่ยวนี้ ก็ไม่ได้เปิดกว้างแก่ทุกคนโดยเท่าเทียมกัน ทาสจะฟ้องร้องได้ต้องได้รับอนุญาตจากนายเงิน ไพร่จะฟ้องร้องคดีได้ก็ต้องได้รับอนุญาตจากมูลนายก่อน เพราะนายเงินและมูลนายมีอำนาจตัดสินคดีพิพาทของคนในสังกัดอยู่แล้ว จะโดยไกล่เกลี่ย หรือโบยตี กระทืบสั่งสอน หรืออนุญาตให้นำเรื่องขึ้นศาลก็ได้
กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์สอนศาลไม่ให้รับสินบน |
กฎหมายตราสามดวงที่ไทยใช้มาแต่โบราณ |
ร. 5 และลูกๆในอังกฤษ 2450 เมีย 92 คน ลูก 77 คน |
ลูกสาวของร. 5 ทั้ง 21 คน |
ลายเซ็นของร. 9 ภูมิพลอดุลยเดช ปร |
ศาลดีกวยแผนกหาเรื่องนักการเมือง |
ศาลไทยเลยกลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามคติสมบูรณาญาสิทธิราชย์ การหมิ่นศาล เลยกลายเป็นการหมิ่นข้าหลวงซึ่งกำลังทำหน้าที่แทนกษัตริย์ แทนที่จะหมายถึงการขัดขวางการทำหน้าที่ของศาลในกระบวนการพิจารณาคดี ที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
15 มีค. 56 วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัดทำมะนวย ยอมรับว่าตัดสินตามสถานการณ์ |
ความศักดิ์สิทธิ์ของศาลไทยเพิ่งสร้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง เพื่อทำให้พ้นจากการถูกตรวจสอบ จึงเอาไปผูกไว้กับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งย่อมอยู่พ้นจากการถูกตรวจสอบอยู่แล้วเช่นกัน จึงมิใช่ศาลตามหลักนิติรัฐประชาธิปไตยแต่อย่างใด
ทำไมทหารต้องยึดอำนาจ
คณะปฏิกูลการปกครองที่มีกษัตริย์ภูมิพลเป็นหัวหน้า |
นายทหารที่ร่วมปล้นประเทศเมื่อ 19 กย. 2549 |
กษัตริย์ภูมิพลลงนามแต่งตั้งรัฐบาลโจรสุรยุทธ์ |
บรรดาโจรกบฏกลายเป็นผู้มีเกียรติในสังคมไทย |
บรรดาผู้รับใช้โจรกบฏเพื่อไล่ล่าฝ่ายประชาธิปไตย |
บรรดาคนดีที่ต้อนรับการปล้นอำนาจของประชาชน |
19 กย. 2549 รถถังเข้ายึดจุดยุทธศาสตร์ทั่วกรุงเทพ |
นายกโจรสุรยุทธ์ไปประชุมเอเปคที่ซิดนีย์ 7-9 กย. 2550 |
ขบวนรถถังที่ลานพระรูป ในเขตพระราชวังดุสิต |
แต่ทุกครั้งที่เกิดความขัดแย้งขึ้นมาในประเทศไทย จะมีคนกลุ่มหนึ่งคิดถึงการแก้ปัญหาด้วยการรัฐประหารทั้งคนนอกเครื่องแบบและในเครื่องแบบ สาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทัพกล้าฉีกรัฐธรรมนูญ และยึดอำนาจจากรัฐบาลประชาธิปไตย ก็เพราะสามารถนิรโทษกรรมตนเองโดยได้รับความเห็นชอบจากกษัตริย์ภูมิพลซึ่งมักเป็นผู้สนับสนุนการรัฐประหารมาตั้งแต่ต้น จึงทำให้ประเทศไทยหนีไม่พ้นวังวนของการรัฐประหาร โดยมีศาลไทยให้การรับรองประกาศและคำสั่งของคณะรัฐประหารให้เป็นกฎหมายตลอดไป
อานันท์ และสนธิลิ้ม งานศพสารวัตรจ๊าบ 7 ตค. 51 |
มีชัย ฤชุพันธุ์ วิษณุ เครืองาม บวรศักดิ์ อุวรรโณ 3 มือกฎหมายของระบอบเผด็จการดักดาน |
ส่วนพลเอกเปรมและกษัตริย์ภูมิพล ก็ทำเป็นว่าไม่รู้เรื่อง แต่แสดงออกในทำนองเห็นดีเห็นงามไปด้วย เหมือนกับว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
ทั้งๆที่มันเป็นเรื่องที่ขัดต่อระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง และเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมายอย่างร้ายแรงไม่ว่าการยอมรับประกาศคณะรัฐประหารเป็นกฎหมาย หรือการยอมช่วยเหลือคณะรัฐประหาร เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้การรัฐประหารเติบโต ไม่ได้เป็นการช่วยประเทศในระยะสั้น แต่เป็นการทำลายประเทศในระยะยาว
19 กย. 54 คณะนิติราษฎร์ โดย วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ปิยะบุตร แสงกนกกุล จันทจิรา เอี่ยมมยุรา ธีระ สุทธีวรางกูล เสนอให้ลบล้างพลพวงรัฐประหาร |
พรบ.กลาโหม 2551 ให้ผบ.เหล่าทัพคุมการแต่งตั้งโยกย้าย |
พล.อ.ยุทธศักดิ์ รมต.กลาโหม นำนายกยิ่งลักษณ์ ตรวจแถว ที่กระทรวงกลาโหมถนนสนามไชย กรุงเทพฯ |
แต่ประชาชนไม่ได้มอบอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายให้พวกนายทหาร และนายทหารก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบต่อประชาชน หลักของความรับผิดชอบเป็นหลักการสำคัญของระบอบประชาธิปไตย เพราะจะทำให้การกระทำต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้การกำกับ และตรวจสอบของประชาชน
นายกยิ่งลักษณ์และพล.อ.เปรม วันกองทัพไทย 21 มค. 56 |
ประสาร ไตรรัตน์วรกุลผู้ว่าธ.ชาติ ขัดแย้งเรื่องลดดอกเบี้ย เพราะเงินบาทแข็ง กับกิตติรัตน์ ณ ระนองรมต.คลัง |
ศาลปกครองสั่งให้ระงับการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี |
รัดทำมะนวย 2550
ได้ผ่านการลงประชามติมาแล้ว
จรัญ ภักดีธนากุลประชันความคิดร่างรัดทำมะนวย 2550 |
ก่อนวันลงประชามติว่าจะรับ หรือ ไม่รับ ร่างรัดทำมะนวย 2550 มีการอภิปรายระหว่างฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2550
นายจรัญ ภักดีธนากุล อยู่ในฝ่ายเห็นด้วย เพราะขณะนั้นเป็นถึงรองประธานกรรมาธิการยกร่างรัดทำมะนวย 2550 โดยนายจรัญได้พูดชัดเจนว่า "ผมเองในฐานะได้รับมอบหมาย จากคณะผู้เสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับให้สรุป ผมก็ต้องสรุปอย่างนี้ครับว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เรายอมรับว่าไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด แต่เรามองว่า มันเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของการกลับคืนมาแห่งอำนาจของประชาชนอย่างราบรื่น.. ..ชัดเจน ..แน่นอน...การที่เราลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญนี้ จะให้ผลดีคือ ยุติระบบปฏิวัติรัฐประหารทันที คมช. สิ้นสภาพทันที
ส่วนว่ารัฐธรรมนูญนี้ไม่ดี มีข้อบกพร่อง มีบางจุดหลายจุดที่ท่านนำเสนอมานี้ เราเริ่มกระบวนการแก้ไข การแก้ไขนี้ผมอยากจะให้ เราทำแบบเมื่อปี 2540
เราเสนอแบบให้ 50,000 คนเท่านั้นครับ แล้วก็ ส.ส.ในสภา 1 ใน 4 เท่านั้นครับ
จรัญ ภักดีธนากุลเป็นตุลาการศาลรัดทำมะนวยต่อไป |
เสนอแก้ไข มาตราเดียว แบบที่เราเริ่มทำในปี 2540 แล้วให้กระบวนการนั้นจัดทำกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนขึ้นใหม่
ถ้าเราเดินอย่างนี้มันจะราบรื่นกว่าที่เราจะใช้วิธีการว่า เอาล่ะ เราล้มร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วคาดหวังว่า คมช. กับ ครม. จะหยิบร่างรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในอดีต มาปรับปรุงให้ดีกว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่เรากำลังทำนี้
ท่านครับ ท่านไม่มีอะไรไปบังคับเขาได้นะครับ ไม่มีเลย นี่เป็นความคาดหวังของเรา แล้วถ้าไม่เป็นไปตามที่เราคาดละครับ อะไรจะเกิดขึ้น
แต่ถ้าเรารับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จะดีจะเลว เราได้ระบอบประชาธิปไตยกลับคืนมาเป็นของประเทศ เราได้อำนาจอธิปไตยกลับคืนมาเป็นของประชาชน
แล้วหลังจากนั้นครับ เราช่วยกันเถิดครับ ช่วยกันพาประเทศนี้เข้าสู่กระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน ที่เราทุกคนอยากได้อีกครั้งหนึ่งเถิดครับ "
ใครที่ได้ฟังในวันนั้นจะยอมรับเลยว่านายจรัญพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและจริงใจมาก
ทุกคนเชื่อว่านายจรัญคิดอย่างนั้นจริงๆ
คือ 1.ให้ รับร่างไปก่อน เพื่อให้ระบอบประชาธิปไตยคืนมา
และ 2.รับแล้วค่อย แก้ไขใหม่ แบบปี 2540 เพราะการเสนอแก้ไขง่ายมาก
13 กค. 2555 ศาลรัดทำมะนวยให้ทำประชามติก่อนแก้ไขทั้งฉบับ |
จะแก้ไขมาตราเดียว เพื่อทำแบบ ส.ส.ร.ปี 2540 ก็ไม่ได้
จะแก้ไขรายมาตราก็มีคนกล่าวหาว่าจะล้มล้างระบอบประชาธิปไตย
นายจรัญ ยังได้พูดอีกประโยคหนึ่งในวันเดียวกันว่า สิ่งที่ผมพบว่าเป็นปัญหาจริงๆ อยู่ที่ความยึดมั่น ถือมั่น ของพวกเรากันเอง
ซึ่งก็คงจะจริง เพราะมีบางกลุ่มยึดมั่น-ถือมั่น ว่ารัดทำมะนวยฉบับนี้ห้ามแก้ไข ถ้าไม่ใช่พวกเดียวกัน
เป้าหมายแรกของรัดทำมะนวย 2550 คือ รักษาและสืบทอดอำนาจ ของกลุ่มที่สนับสนุนการรัฐประหาร ให้นานที่สุด
โดยมีลักษณะเด่น คืออำนาจการแต่งตั้งจะอยู่ที่ วุฒิสภา+ตุลาการกลุ่มหนึ่ง+ประธานองค์กรอิสระ นี่เป็นการ...ร่วมกันเขียน เวียนกันแต่งตั้ง เพื่อรั้งอำนาจไว้ตลอดไป
สว.สรรหา 73 คน เป็นพวกที่กบฏคมช.ตั้งเข้ามาเพื่อคุมอำนาจในวุฒิสภา |
วุฒิสภามีสมาชิก 150 คน มาจากการเลือกตั้งจังหวัดละ 1 คน รวม 76 คน (เดิมมี 76 จังหวัด) มาจากการสรรหา 74 คน หมายความว่า คน 60 ล้านคน สามารถเลือกวุฒิสมาชิกได้ 76 คน และคนพิเศษ ที่เป็นผู้สรรหา 7 คน ที่ประชาชนก็ไม่ได้เลือกมา แต่สามารถเลือกวุฒิสมาชิกได้ 74 คน
โดยผู้สรรหาทั้ง 7 ประกอบด้วย
ชัช ชลวร ประธานศาลรัดทำมะนวยเป็นประธานสรรหาส.ว. |
จะเห็นว่ากรรมการสรรหาทั้ง 7 คน มาจากการเลือกของศาลต่างๆ โดยประธานตุลาการในศาลต่างๆ จะมีบทบาทสูงในการเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ
ลักษณะการเลือกแบบนี้จึงเป็นการที่คนกลุ่มเดียวผลัดกันเลือก ตามคำสั่งของผู้คุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร เพื่อไปดำรงตำแหน่งต่างๆ ที่มีอำนาจชี้ขาดที่สำคัญในสังคม กลายเป็นกระบวนการอยุติธรรมที่ต่อเนื่องและวุ่นวาย มาตลอดหลังการประกาศใช้รัดทำมะนวย 2550
เปิดตัวคณะผู้ร่วมก่อการรัฐประหาร 19 กย. 2549 |
ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานยกร่างรัดทำมะนวย 2550 |
" บรรดาการกระทำทั้งหลาย ซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ของหัวหน้าและคณะ คปค. หรือ คมช. ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายก็ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดย สิ้นเชิง "
บทนิรโทษกรรม ตามรัดทำมะนวยฉบับชั่วคราวที่ คปค.ประกาศใช้ก็เพื่อปกป้องตนเองและผู้อยู่เบื้องหลังไม่ให้ต้องรับโทษ จากความผิดฐานกบฏตามกฎหมายอาญามาตรา 113
การจะเขียนกฎหมายมาตราหนึ่งบอกว่า การกระทำใดๆ ของบคคลหรือคณะบุคคลในอดีตที่ทำไปแล้วในอดีตถือว่าถูก อันนี้ยังพอรับได้ แต่การไปรับรองเรื่องในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร อันนี้คงรับไม่ได้เด็ดขาด
แก้รัดทำมะนวยเพื่อทักษิณคนเดียว
พรรคแมลงสาบอ้างคัดค้านแก้ไขรัดทำมะนวยเพื่อทักษิณ |
นายกอภิสิทธิ์จากค่ายทหาร เข้าคารวะสนธิลิ้ม 9 กย.53 |
อภิสิทธิ์ และสุเทพ ผู้ชอบอ้างกฎหมู่ในนามกฎหมาย |
เรื่องที่พรรคแมลงสาบและพันธมารเรียกร้องให้คุณทักษิณกลับมาติดคุกในคดีที่คุณหญิงพจมานประมูลซื้อที่ดินรัชดา และยังกล่าวหาว่าการแก้ไขรัดทำมะนวย 2550 หรือการออกกฎหมายปรองดองเพื่อช่วยคุณทักษิณคนเดียว ทั้งๆที่คุณทักษิณไม่มีความผิดแม้แต่น้อย
ทีดินแปลงที่คุณหญิงพจมานประมูลได้ |
คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) |
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ พิพากษาคดีที่ดินรัชดา |
คุณหญิงพจมานและคุณทักษิณจำเลยคดีซื้อที่ดินที่ไม่มีมูล |
จะเห็นได้ว่าการซื้อขายที่ดินนี้ ได้ถูกสั่งยกเลิกให้ถือว่าเป็นโมฆะ
มีการคืนเงินค่าซื้อขายพร้อมดอกเบี้ยให้คุณหญิงพจมานไปเป็นที่เรียบร้อย แต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองได้พิพากษาหาเรื่องเอาผิดคุณทักษิณไปก่อนแล้วโดยให้จำคุกแบบห้ามอุทธรณ์หรือฎีกา
ทั้งๆที่คุณทักษิณไม่เคยมีประวัติถูกจำคุกมาก่อนและเป็นผู้มีคุณูปการต่อบ้านเมืองมาก่อน
คนทั้งประเทศและนานาชาติต่างทราบกันดีว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง
จึงไม่ถือว่าคุณทักษิณ เป็นนักโทษร้ายแรง แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กลับหลอกประชาชนไทยว่า
ตำรวจสากลได้ออกหมายจับคุณทักษิณ ทั้งยังพยายามที่จะไล่ล่า บีบบังคับให้นานาชาติไม่ให้ออกวีซ่าให้คุณทักษิณเข้าประเทศ
ขอให้ส่งคุณทักษิณกลับประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
จนก่อความอึดอัดรำคาญแก่นานาชาติเป็นอันมาก เพราะวิญญูชนย่อมทราบดีว่าคุณทักษิณไม่ได้กระทำความผิดแต่อย่างใด
แต่เขาคืออดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกปล้นอำนาจ
และมันเป็นเรื่องอัปยศที่ไร้จรรยาบรรณของศาลไทยที่ไปรับใช้อำนาจเผด็จการหาเรื่องเอาผิดคุณทักษิณอย่างหน้าด้านๆ
กษิต ภิรมย์ รมต.ต่างประเทศให้ต่างประเทศส่งตัวคุณทักษิณ |
โอวาทคนดีและไม่ดี 11 ธ.ค. 2512 ค่ายลูกเสือศรีราชา |
…………
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น