หรือที่ : http://www.4shared.com/mp3/LaJc6Fxo/See_Thru_Floor_16_-1601__.html
..................
รู้ทันชั้น16/01
พระพุทธเจ้าสอนอะไร
เย ธัมมา เหตุปัปภวา
ธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ

พระอัสสชิ ตอบว่า อาตมาเป็นพระใหม่ ไม่อาจตอบสาระธรรมที่ลึกซึ้งได้ แต่ได้แสดงธรรมสำคัญอันเป็นหัวใจพระศาสนา โดยย่อว่า...
เยธัมมา เหตุปัปภวา ..... ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ
พระตถาคตเจ้า ตรัสเหตุของธรรมเหล่านั้นและความดับของธรรมเหล่านั้น
พระมหาสมณะ มีวาทะตรัสไว้ดังนี้
พระสารีบุตร ซึ่งกำลังแสวงหาธรรมแห่งการหลุดพ้น ได้ยินคำตอบเช่นนั้น ก็เกิดความรู้แจ้ง ได้บรรลุธรรม มีดวงตาเห็นธรรม มองเห็นว่า สรรพสิ่งทั้งหลายมีความเกิดเป็นธรรมดา

พระพุทธศาสนาจึงเป็นศาสนาที่ไม่ได้สอนให้คนหวังความช่วยเหลือเอื้ออำนวยจากพลังภายนอก หรือพลังเหนือธรรมชาติในรูปใดๆก็ตาม แต่สอนให้เชื่อมั่นในหลักกรรม คือการกระทำของตนเอง คาถา เย ธัมมาจึงถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาที่เน้นเรื่องของความจริงแท้ที่เรียกว่าธรรมะ หรือ การใช้สติปัญญาพิจารณาหาแก่นแท้ของความจริงนั่นเอง

โยนิโส มาจาก แปลว่า เหตุ ต้นเค้า แหล่งเกิด วิธี หรือทาง
มนสิการ แปลว่า การคิด คำนึง นึกถึง ใส่ใจ พิจารณา
โยนิโสมนสิการ แปลว่า การคิดคำนึงโดยแยบคาย คือคิดเป็น คิดถูกต้องตามความเป็นจริงอาศัยการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ และคิดเชื่อมโยงตีความข้อมูลเพื่อนำไปใช้ต่อไป

สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง คือ การให้ความรู้คิดและสติปัญญาย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการให้สิ่งของ หรือการให้คนได้มีโอกาสพัฒนาสร้างตนเองย่อมดีกว่าการรอรับแจกเงินหรือสิ่งของ
นัตถิ ปัญญา สมา อาภา แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี เมื่อมีสติปัญญาก็มองเห็นหนทางที่จะเดินไปข้างหน้า ถ้าไม่ใช้สติปัญญาชีวิตก็จะมืดบอด มองไม่เห็นทางออก



ไตรลักษณ์ หรือ ความจริงแท้ของโลกสามประการ


เมื่อสิ่งทั้งหลายเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนตฺตา ถ้าเราเข้าไปสัมพันธ์กับสิ่งทั้งหลาย ด้วยอวิชชา ตัณหา อุปทาน ก็จะเกิดปัญหาขึ้นกับชีวิตของตัวเองทันที

ตัณหา คือ ความอยาก ความปรารถนาต่อสิ่งต่าง ๆ โดยไม่มีความรู้ความเข้าใจ
อุปาทาน คือ การเข้าไปยึดมั่น ถือมั่น ให้เป็นอย่างที่ตัวต้องการ เอาความปรารถนาของตนเป็นตัวกำหนด
ในทางตรงข้าม ถ้าเรารู้ทันความจริงของโลก ใช้ความรู้จริงและปัญญาโดยอาศัยตัณหาน้อยลงตามลำดับ จนกระทั่ง อวิชชา หมดไป ก็ไม่มีทุกข์เกิดขึ้นอีก นี่คือหลักการสำคัญทางพุทธศาสนา ดังพุทธภาษิตว่า พระตถาคต สอนแต่เรื่องความทุกข์ กับ ความพ้นทุกข์ เท่านั้น





ความเข้าใจที่ผิด
เกี่ยวกับพุทธศาสนา


อกาลิโก ไม่ประกอบด้วยกาล ไม่ขึ้นกับกาลเวลา บรรลุได้ทันที เห็นผลได้ทันที เป็นจริงอยู่ อย่างนั้นตลอดเวลา
เอหิปัสสิโก ควรเรียกให้มาดู ชวนให้มาชม พิสูจน์ตรวจสอบได้
โอปนยิโก ควรน้อมเข้ามาไว้ในใจ หรือน้อมใจเข้าไปให้ถึง
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ อันวิญญูชนพึงรู้ได้เฉพาะตน ทำให้กันไม่ได้ เอาจากกันไม่ได้




พระพุทธรูปไม่ใช่พระพุทธเจ้า
พระธรรมคือตัวแทนพระพุทธเจ้า




เราต่างมีพระเจ้าทางใจองค์เดียวกัน

การสังคายนาพระไตรปิฎก


แม้พระไตรปิฎกจะเป็นหลักฐานชั้น 1 แต่พระพุทธองค์สอน ให้ใช้ปัญญาพิจารณาเหตุผล สอบสวนดูให้เห็นประจักษ์ด้วยตนเอง ให้เสรีภาพแก่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ ให้นำไปประพฤติปฏิบัติ เพื่อได้ประจักษ์ผลนั้นๆ ด้วยตนเอง
ชาติก่อน ชาติหน้า หรือชาติไหน

เรื่องบุญกรรม

















......





พุทธศาสนามุ่งหมายอะไร




มนุษยสมบัติ หมายถึง การได้ประโยชน์อย่างมนุษย์ทั่วไปด้วยการขยันขันแข็งในอาชีพการงาน เพื่อความเป็นอยู่อย่างผาสุกตามอัตภาพ
สวรรค์สมบัติ หมายถึง ประโยชน์ที่คนมีสติปัญญา มีความสามรถพิเศษ จะพึงถือเอาได้ โดยไม่ต้องใช้กำลังแรงงานอย่างหนัก ก็ยังมีชีวิตรุ่งเรืองอยู่ได้
นิพพานสมบัติ หมายถึง การได้ความสงบเย็น เพราะไม่ถูกกิเลสเบียดเบียน ไม่ต้องเร่าร้อน สมบัติทั้งสามนี้ เป็นเพียงประโยชน์ที่อยู่ในระดับต่างๆกัน ที่เราเข้าสามารถเข้าถึงได้ทั้งหมด ในเวลาปัจจุบันในชาตินี้ จึงจะได้ชื่อว่าได้รับประโยชน์จากพุทธศาสนาอย่างแท้จริง





พุทธศาสนาในแบบส่งเสริม
ค้ำจุนระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์




สมณศักดิ์และพัดยศ



พระครูปลัดของพระราชาคณะ ชั้นเทพ ชั้นราช พระครูวินัยธร พระครูธรรมธร พระครูคู่สวด พระครูสังฆรักษ์ พระครูสมุห์ พระครูใบฎีกา พระสมุห์ พระใบฎีกา พระพิธีธรรม

การแก้ปัญหาการเมือง
ตามแนวพุทธศาสนา
พุทธศาสนาเน้นการพิจารณาโดยใช้หลักความเป็นเหตุปัจจัยของสรรพสิ่ง โดยต้องค้นให้พบว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริงหรือต้นตอของปัญหา














..........
..........
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น